เรื่องผักกาดขาวปลี

.. ผักกาดขาว.... ในบรรดาผักกาดขาวๆพันธุ์  ผักกาดขาวที่ได้รับความนิยมจะเป็นผักกาดขาวปลี เนื่องจากมีลักษณะขาวสะอาด กรอบ หวาน ใช้บริโภคทั้งสุกทั้งดิบ รวมทั้งยังนำไปแปรรูปได้ด้วย  จนได้รับฉายาว่าเป็นเจ้าแห่งผักกาด การบริโภคผักกาดขาวนั้นจะได้ทั้งคาร์โบไฮเดรท โปรตีน ไขมันเกลือแร่ และวิตามินอย่างครบถ้วน นอกจากนี้สิ่งที่น่าทึ่งคือ ผักกาดขาวมีโฟเลต ซึ่งเป็นสารที่จำเป็นต่อการสร้างระบบเส้นประสาทให้ทารกในครรภ์ช่วงระยะสามเดือนแรก และยังมีผลต่อการสร้างพันธุกรรมและ

เซลเม็ดเลือดแดงอีกด้วย  จึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับบรรดาคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ทั้งหลาย

..... ผักกาดขาวปลีเป็นผักในฤดูหนาว ระยะเวลาการปลูกอยู่ในช่วงเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ดังนั้นถ้าอากาศร้อนจะไม่มีการห่อปลี หรือห่อน้อยจึงทำให้คุณภาพไม่ดี  นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญคือ ความชื้นในดินต้องสูง และได้รับแสงแดดตลอดวัน .....พันธุ์ของผักกาดขาวปลีนั้นแบ่งออกตามลักษณะของปลี คือ พวกห่อปลียาว รวมทั้งพันธุ์ที่มีหัวตั้งตรงสูง และรูปไข่ ได้แก่ พันธุ์ผักกาดโสภณ หรือผักกาดขาวฝรั่ง  พวกปลีกลมรวมทั้งพันธุ์ปลีป้านทางส่วนบน มักเป็นพันธุ์เบาและอายุในการปลูกสั้น พวกปลีหลวมโดยมากเป็นพันธุ์ผักพื้นเมืองของชาวเอเชียพวกนี้ไม่ห่อปลี  ปลูกได้แม้อากาศไม่หนาว ได้แก่พันธุ์ผักกาดขาวใหญ่ และผักกาดขาวธรรมดา ซึ่งปัจจุบันการปลูกเริ่มลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เนื่องจากความอร่อยสู้พวกห่อปลียาวไม่ได้ รวมทั้งระยะในการเก็บรักษายังสั้นกว่าอีกด้วย ชื่อของพันธุ์ผักกาดขาวที่ชาวสวนนิยมปลูก ได้แก่ ตราดอกโบตั๋น ตราช้าง ตราเครื่องบิน ตราเครื่องบินพิเศษ และ พันธุ์เทียนจิน ..... ผักกาดขาวปลีสามารถปลฏได้ในดินทั่วไป แต่ดินที่เหมาะสมที่สุดคือ ดินร่วนเนื่องจากสามารถระบายน้ำได้ดี  เริ่มปลูกขุดดินให้ลึก 12 นิ้ว แล้วตากดินให้แห้ง 10-15 วัน ทำการย่อยพรวนดินคลุกกับปุ๋ยคอก การปลูกในลักษณะพืชสวนครัวควรหว่านเมล็ดลงในแปลงเลย เนื่องจากทุ่นเวลาในการย้ายกล้า และราคาเมล็ดพันธุ์ไม่แพงมากนักโดยหว่านเมล็ดลงไป ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักหว่านทับลงไปหนาประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร เสร็จแล้วคลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้ง  ทั้งนี้เพื่อช่วยรักษาความชื้น เมื่อผักกาดขาวปลีมีอายุประมาณ 15-20 วัน  ควรถอนแยกออกให้มีระยะห่างระหว่างต้น 30-50 เซนติเมตร ในระยะแรกเมื่อเมล็ดงอกควรให้น้ำวันละ 3-4 เวลา เพื่อให้หน้าดินอ่อนสะดวกแก่การงอกของเมล็ด เมื่อผักอายุเกิน 7 วันแล้ว ก็ลดลงเหลือวันละ 3 เวลา  พออายุเกิน 3 เดือนไปแล้วรดน้ำเพียงวันละ 2 เวลา  ซึ่งผักกาดขาวปลีจะขาดน้ำไม่ได้ในช่วงห่อปลี เพราะจะทำให้การห่อปลีและการเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์

..... การใส่ปุ๋ย ให้แบ่งใส่ 2 ครั้งคือ หลังจาก 7 วันแล้วครั้งหนึ่ง กับ 15 วันครั้งหนึ่ง ครั้งแรกควรใส่ปุ๋ยคอกผสมกับปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต หรือ ยูเรีย  โดยกะประมาณเนื้อที่ 1 ตารางเมตร ใส่ปุ๋ยคอก 3-4 กิโลกรัม ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต 100 กรัม หรือปุ๋ย ยูเรีย 50 กรัม ( ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ) ผสมให้เข้ากันแล้วจึงหว่านลงในแปลง ครั้งที่ 2 ใส่เฉพาะปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟต หลังจากใส่ปุ๋ยแล้วต้องพรวนดินกลบปุ๋ยลงในดิน และรดน้ำตามด้วย ...ผักกาดขาวปลีเป็นผักที่หนอนชอบมาก  ผู้ปลูกจึงควรดูแลเอาใจใส่ให้มากทุกๆวัน  และการฉีดยาพ่นยาป้องกันและการกำจัดแมลง ควรฉีดก่อนผักเริ่มเข้าปลี  ซึ่งหมายถึงเมื่อผักอายุไม่เกิน 30 วัน ถ้าปล่อยให้หนอนเข้าปลีได้แล้วจะไม่สามารถใช้ยากำจัดอย่างได้ผล  พืชผักจะเสียหายหมด อายุการเก็บเกี่ยวของผักกาดขาวปลีประมาณ 65-90 วัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่ปลูก ข้อสังเกตุว่าถึงเวลาที่ต้องเก็บเกี่ยวแล้ว คือ ใบนอกแรกเริ่มแห้งและเข้าปลีแน่นพอสมควร นอกจากนี้ควรตัดก่อนปลีจะคลายความแน่น และควรตัดในขณะที่น้ำที่อยู่ตามใบแห้งดีแล้ว ทั้งนี้เพื่อให้ได้ผักที่กรอบ ไม่อวบน้ำจนเกินไป และผักไม่หักช้ำ หรือเน่าง่าย

chiangmai in Thailand.

 
Chiang Mai is Thailand's second city, but in terms of quality of living, tourist attractions and development potential, it's second to none in Southeast-Asia.

The city is famous for her friendly people, beautiful women, refined handicrafts, cool climate and stunning mountain scenery.

More than three-hundred temples, among them some of the most beautiful and revered in the entire Buddhist world, give the city an atmosphere of calmness and timeless elegance.

Chiang Mai has a distinct international atmosphere with many foreign businesses and organizations (NGOs) locating in the city over the past decade due to her excellent infrastructure with international direct flight connections to all countries in the region including China, Singapore, Malaysia, Burma, Cambodia and Taiwan.

The quality of living is unsurpassed. Accommodation and food are of the highest standard at very low cost. Entertainment is plentiful with numerous festivals, outdoor activities and great nightlife.

Genuine adventure is to be found in the immediate vicinity of Chiang Mai with jungle tours, rafting, elephant riding and hill tribe villages to visit.

Shopping is great, be it for handicrafts, clothes or luxury items. Everything can be found at great prices in stores ranging from small family-run shops to world-class luxury outlets and shopping malls.

In a recent survey by the Asiaweek magazine, Chiang Mai was ranked as the 9th most livable city in Asia east of Kabul. Everyone visiting or living here would attest that it's in fact number one.

Ayutthaya of Thailand

• Ayutthaya Historical Park is the ruins of the former capital of the Kingdom of Siam. It is the site of mass murder, rape and enslavement of Siamese people and destruction of the Ayutthaya city, its art and buildings by the Burmese in 1767.
• Also close for tourism are the ancient city of Lop buri and the Summer Palace. Ramathibodi [ U Thong ] and remained the capital of The Kingdom of Siam for 417 years until it was destroyed by the Burmese invaders in 1767.
• Ayutthaya is important as it was the center of the Ayutthaya Kingdom for 417 years, the creative center for the Ayutthaya style  of art, the defining kingdom in Southeast Asia and the start for the subsequent Bangkok Empire which was later founded by the survivors of the Burmese sacking.
• The Kingdom saw 5 dynasties, 33 kings and was involved in 70 wars. In 1352, King Ramathibodi of Ayutthaya conquered the Khmer and in 1378 the Ayutthaya Kingdom conquered Sukhothai to its north.
• Again in 1431 the Ayutthaya Kingdom waged war with the Khmer finally sacking Angkor after a 7 months siege. From 1548-1578 the city was under siege from the Burmese. In 1767 the City and Empire collapsed and was sacked and burnt down.
• Ayutthaya Historical Park is the most important tourist site for Thailand tourism outside Bangkok in Central Thailand. Ayutthaya is a one hour drive north from Bangkok. 

Koh Chang.

 Wellcome to Koh Chang of Thailand.

Koh Chang isn’t a small island and all the beaches have a different vibe.  Most visitors will have a clear favourite that suits their style of travelling and meets their expectations in terms of level of development and the type of accommodation , amenities,  facilities etc  that are on offer in the nearby area. Unless you are an unfeasibly healthy Scandinavian, or a stoned backpacker, you won’t be walking from beach to beach, therefore choosing where you stay is important.

Read through my random thoughts and descriptions of the different areas and by the end of it all you will either be more confused than ever, as some of the info may not tally with the tour brochures and travel magazine’s ‘Undiscovered, Palm fringed, ‘Last Paradise on Earth’, Oriental Eden’ take on the island; or you will have a better idea of where to stay and what to really expect should you decide to visit.